พระบูชาไพรีพินาศ สก. ปี 2535 วัดบวรนิเวศวิหาร ปิดทอง ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว จัดสร้างในวาระสำคัญเฉลิมพระชนมพรรษามหาราชินี ในรัชกาลที่ 9 ครบ 5 รอบ 60 พรรษา 12 สิงหาคม 2535 หมายเลข No. 4521 สภาพสวยสมบูรณ์มากๆ (ราคาจองในสมัยนั้นสำหรับพระที่ปิดทองทั้งองค์ 10,000 บ

พระบูชาไพรีพินาศ สก. ปี 2535 วัดบวรนิเวศวิหาร ปิดทอง ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว  จัดสร้างในวาระสำคัญเฉลิมพระชนมพรรษามหาราชินี ในรัชกาลที่ 9 ครบ 5 รอบ 60 พรรษา 12 สิงหาคม 2535 หมายเลข No. 4521 สภาพสวยสมบูรณ์มากๆ (ราคาจองในสมัยนั้นสำหรับพระที่ปิดทองทั้งองค์ 10,000 บาท )

 

พระไพรีพินาศ รุ่นพิเศษ สก. วัดบวรนิเวศ ปี2535 จัดสร้างในวาระพิเศษที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินนีนาถทรงทรงเจริญพระชันษาครบ 5 รอบในปี2535 และสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชทรงประกอบพิธีจุดเทียนชัยและมีพระเกจิคณาจารย์ในยุตสมัยนั้นมาร่วมเจริญมงคลคาถา และร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกในพิธีมากมาย อาทิเช่น

หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่

หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวการาม

หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ

หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก

หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาลวัน เป็นต้น

 

พระไพรีพินาศรุ่นนี้ ประทับตราปรมาภิไธยย่อ สก หน้าฐานพระ

ประวัติพระไพรีพินาศ  "พระไพรีพินาศ" เป็นพระนามของพระพุทธรูป ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ เก๋งบนชั้นสองของพระเจดีย์ใหญ่วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ เป็นพระศาลาแกะที่มีชนาดย่อม หน้าตักกว้าง 33 ซม. และมีความสูงถึงปลายรัศมี 53 ซม. สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ทรงมีพระวินิจฉัยในสาสน์สมเด็จว่า"พระไพรีพินาศเป็นพระพุทธรูปแบบมหายานปางประทับนั่งประทานอภัย กล่าวคือ มีพระพุทธลักษณะเหมือนพระปางมารวิชัยหัตถ์ขวาที่วางอยู่บนพระชานุขี้น"

 

พระไพรีพินาศองค์นี้มีผู้นำมาถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งขณะนั้นยังทรงผนวชอยู่ที่วัดบวรนิเวศ วิหาร และอยู่ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระไพรีพินาศองค์นี้ทรงแสดงอภินิหารให้ปรากฏอริราช

ศัตรูที่คิดปองร้าย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวต่างมีอันเป็นไป และพ่ายแพ้ภัยตนเอง พระองค์จึงโปรดให้ถวาย

พระนามของพระพุทธ รูปองค์สำคัญนี้ว่า "พระไพรีพินาศ"

 

โดยมีหลักฐานเป็นกระดาษพับสอดไว้ใต้ฐานมีอักษรเขียนว่า "พระสถูปเจดีย์ศิลาบัลลังก์องค์ จงมีนามว่าพระไพรีพินาศ

เทอญ" และอีกด้านเขียนว่า "เพราะตั้งแต่ทำมาแล้ว คนไพรีก็วุ่นวายยับเยินไปโดยลำดับ" หลักฐานดังกล่าวได้ค้นพบเมื่อ

เมื่อวันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2507 ระหว่างซ่อมแซมพระเจดีย์ 96 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร