จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | พระศาสดา |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ไฮไลท์ |
พระศรีศาสดา หนักตัก ๙ นิ้ว ปิดทอง จัดสร้างวาระครบ ๒๐๐ ปี พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ จัดสร้างจำนวน ๙๙๙ องค์ โดยคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย......องค์นี้ NO. ๑๒๗
สืบเนื่องจากคณะกรรมการประจำคณะวิทยาศาสตร์ และสมาคมนิสิตเก่าคณะวิทยาศาสตร์ จุฬากรณ์มหาวิทยาลัย
รวมถึงอาจารย์ ข้าราชการ นิสิตทั้งปวง มีความเห็นตรงกันที่จะจัดสร้างหอเกียรติยศ เพื่อเทิดทูนพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เนื่องในวโรกาสอันเป็นมหามงคลครบรอบพระราชสมภพ 200 ปี ในปีพุทธศักราช 2547 เพื่อระลึกถึง
"พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย " ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อวงการวิทยาศาสตร์ไทย และเพื่อให้บรรดานักวิทยาศาสตร์
นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้รำลึกถึงพระองค์ท่าน
|
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
พระศรีศาสดา หนักตัก ๙ นิ้ว ปิดทอง จัดสร้างวาระครบ ๒๐๐ ปี พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ จัดสร้างจำนวน ๙๙๙ องค์ โดยคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย......องค์นี้ NO. ๑๒๗
ความเป็นมาการสร้างพระศาสดา ภ.ป.ร.
สืบเนื่องจากคณะกรรมการประจำคณะวิทยาศาสตร์ และสมาคมนิสิตเก่าคณะวิทยาศาสตร์ จุฬากรณ์มหาวิทยาลัย
รวมถึงอาจารย์ ข้าราชการ นิสิตทั้งปวง มีความเห็นตรงกันที่จะจัดสร้างหอเกียรติยศ เพื่อเทิดทูนพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เนื่องในวโรกาสอันเป็นมหามงคลครบรอบพระราชสมภพ 200 ปี ในปีพุทธศักราช 2547 เพื่อระลึกถึง
"พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย " ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อวงการวิทยาศาสตร์ไทย และเพื่อให้บรรดานักวิทยาศาสตร์
นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้รำลึกถึงพระองค์ท่าน ในการนนี้คณะกรรมการประจำคณะวิทยาศาสตร์และ
สมาคมนิสิตเก่า คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีมติให้สร้างวัตถุมงคลพระศาสดา โดยได้รับพระเมตตาจาก
สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก อย่างสูงยิ่ง ทรงประธานให้พระพรหมมุนีเป็นองค์ประธาน
ในพิธีเททองพระศาสดา และทางคณะวิทยาศาสตร์ได้รับพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่
ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อภ.ป.ร.ประดิษฐานที่ฐานบนผ้าทิพย์พระศาสดา ด้านหลังของเหรียญ
วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง
วัตถุมงคลที่สร้างขึ้นมานี้เพื่อสมนาคุณต่อผู้ที่มีอุปการะคุณสร้างหอเกียรติยศที่ตั้งอยู่ในอาคาร "มหามงกุฏ" คณะ
วิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่รัฐบาลอนุมัติเงินให้ก่อสร้างให้เป็นอาคารที่สอนวิทยาศาสตร์ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
มี 20 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 50,000 ตารางเมตร รองรับนิสิตเพื่อการเรียนการสอนสายวิทยาศาสตร์ วันละ 3,000 คน
หลักการและวิธีการจัดสร้าง
เพื่อให้พระศาสดาที่ได้จัดสร้างขึ้นเป็นสิ่งสูงค่ายิ่งแก่การสักการะบูชา คณะผู้ดำเนินการจัดสร้างได้ถือปฏิบัติหลัก
การและวิธีการจัดสร้างดังนี้
1. มีการจำลององค์พระศาสดาที่เหมือนองค์จริงที่สุดทั้งลักษณะและอัตราส่วนรวมถึงรายละเอียดของฐานพระเพื่อ
ให้เกิดความปิติยินดีที่เป็นสิ่งที่สูงยิ่งแก่การบูชา
2. สร้างพระศาสดาในจำนวนจำกัด และตอกตัวเลขบนองค์พระตามจำนวนที่สร้าง (พระบูชา จัดสร้าง 999 องค์)
3. พิธีกรรมการสร้าง ให้ประกอบพิธีเททองพระศาสดาในฤกษ์บริเวณหน้าพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร โดยโยง
สายสิญจน์จากองค์พระพุทธชินสีห์และพระศาสดาจากพระอุโบสถ
4. มีการควบคุมการสร้างแม่พิมพ์และตัวเลขจะถูกทำลายทันทีที่มีการสร้างครบจำนวน
5. พระเนื้อทองคำทุกชุดจะมีใบประกาศนียบัตรมอบให้กับผู้บริจาค
------------------------------------------------------------------------------------
ประวัติพระศาสดา
ประวัติพระศาสดา
เป็นพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย สมัยสุโขทัย หน้าตักกว้าง ๔ ศอก ๑ คืบ ๘ นิ้ว เดิมประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุพิษณุโลก ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ เจ้าอาวาสวัดบางอ้อยช้าง จังหวัดนนทบุรี ให้อัญเชิญพระศาสดาจากเมืองพิษณุโลกมาไว้ที่วัด ครั้นสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ (ทัด บุนนาค) ทราบเรื่อง จึงให้อัญเชิญพระศาสดาจากวัดบางอ้อยช้างมาไว้ที่วัดประดู่ฉิมพลี ซึ่งเป็นวัดที่ท่านสร้างขึ้น ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบและมีพระราชดำริว่า พระศาสดานั้นสร้างขึ้นพร้อมกับพระพุทธชินสีห์ซึ่งสมเด็จพระบวรราชเจ้า มหาศักดิพลเสพทรงให้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร พระศาสดาก็ควรประดิษฐานอยู่ ณ วัดบวรนิเวศวิหารที่เดียวกับพระพุทธชินสีห์ เป็นเสมือนพระพุทธรูปผู้พิทักษ์พระพุทธชินสีห์ แต่ยังมิได้สร้างสถานที่ประดิษฐาน จึงโปรดให้อัญเชิญไปประดิษฐานยังมุขหน้าพระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวรารามไปพลางก่อนเมื่อพุทธศักราช ๒๓๙๖ ครั้นสร้างพระวิหารพระศาสดาจวนแล้วเสร็จจึงโปรดให้อัญเชิญพระศาสดามาประดิษฐาน เมื่อพุทธศักราช ๒๔๐๗
พระวัติพระศาสดา วัดบวรนิเวศวิหาร
🔹🔹เป็นพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย สมัยสุโขทัย หน้าตักกว้าง ๔ ศอก ๑ คืบ ๘ นิ้ว เดิมประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุพิษณุโลก ต่อมาในสมัรัตนโกสินทร์ เจ้าอาวาสวัดบางอ้อยช้าง จังหวัดนนทบุรี ให้อัญเชิญพระศาสดาจากเมืองพิษณุโลกมาไว้ที่วัด
🔹🔹ครั้นสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ (ทัด บุนนาค) ทราบเรื่อง จึงให้อัญเชิญพระศาสดาจากวัดบางอ้อยช้างมาไว้ที่วัดประดู่ฉิมพลี ซึ่งเป็นวัดที่ท่านสร้างขึ้น ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบและมีพระราชดำริว่า พระศาสดานั้นสร้างขึ้นพร้อมกับพระพุทธชินสีห์ซึ่งสมเด็จพระบวรราชเจ้า มหาศักดิพลเสพทรงให้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร พระศาสดาก็ควรประดิษฐานอยู่ ณ วัดบวรนิเวศวิหารที่เดียวกับพระพุทธชินสีห์ เป็นเสมือนพระพุทธรูปผู้พิทักษ์พระพุทธชินสีห์ แต่ยังมิได้สร้างสถานที่ประดิษฐาน จึงโปรดให้อัญเชิญไปประดิษฐานยังมุขหน้าพระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวรารามไปพลางก่อนเมื่อพุทธศักราช ๒๓๙๖ ครั้นสร้างพระวิหารพระศาสดาจวนแล้วเสร็จจึงโปรดให้อัญเชิญพระศาสดามาประดิษฐาน เมื่อพุทธศักราช ๒๔๐๗ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |